วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

กว่าจะเป็นนพอ.


























เป็นเวลากว่า 4 ปีมาแล้วที่ผมได้ผ่านประสบการณ์อันไม่อาจลืมเลือนได้ง่าย อันเนื่องมาจากความอยากเรียนดำน้ำ แต่เงินไม่มี เพราะค่าเรียนของเอกชนแพงมาก เกินกำลังของคนชนชั้นกลางอยากผมจะเรียนได้ เพราะไหนจะค่าเรียนหลักหมื่น ยังมีค่าอุปกรณ์ที่มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ (แต่ควรมีเป็นของตัวเองบ้าง) ที่จุกจิก อีกหลายหมื่นถึงจะ full option แต่พอเพื่อนที่ทำงานบอกว่า สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ มีหลักสูตรสอนดำน้ำ(เกือบ)ฟรี ที่ว่าเกือบคือต้องจ่ายค่าอาหาร 3 มื้อ ตลอดเวลาการฝึก ซึ่งผมก็ถือว่าฟรีนั่นแหล่ะ หรือใครไม่ต้องกิน จ่ายแค่พันกว่าบาท ได้กินอยู่ฟรี อาหาร 3 มื้อ ตลอด 2 สัปดาห์ (ย้ำว่า 2 สัปดาห์ อะไรจะขนาดนั้น เรียนเอกชนแค่ 2 วัน) ได้ชุดฝึกอีก 2 ชุดพร้อมปักชื่อ และสกรีนเสื้อรุ่นให้ สิ่งที่ต้องเตรียมไปเองคือ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะ ชุดนอน อุปกรณ์ส่วนตัวนิดหน่อย เช่น สบู่ แปรงสีฟัน สุดท้ายที่ต้องเตรียมคือ ใจ เพื่อรับกับการฝึกดำน้ำโดยครูฝึกหน่วยซีล (โอ้ว ถ้ารู้ตัวก่อนคงเปลี่ยนความคิด แต่ไม่ทันแล้ว)
ใช่ว่าแค่มีใจ(กับเวลาหยุด 2 สัปดาห์) ก็ไปเรียนหลักสูตรนี้ได้แล้ว เพราะแต่ละปีจะมีผู้สนใจ (ไม่รู้ใครไปปากโป้ง) มาสมัครกว่า 200-300 คน บางปีปาเข้าไปถึง 400 กว่าคน แต่เค้ารับได้แค่ พลเรือนชาย 20 พลเรือนหญิง 20 และทหาร 20 เท่านั้น จึงต้องมีเกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มข้น(สุดๆ) เพื่อคัดเอาผู้โชคดี(ที่รอด)ไปเรียนหลักสูตรนี้ และนี่คือที่มาของกว่าจะเป็นนพอ.
เริ่มจากการไปสมัครเป็นลายลักษณ์อักษร ตามธรรมเนียมราชการ ส่งใบสมัครพร้อมรูปถ่าย และเตรียมวางแผนว่าจะลาหยุดได้ไหม แต่วันเรียนตรงกับวันหยุดช่วงเมษาอยู่แล้วเลยไม่ค่อยกระทบเท่าไหร่ (ยกเว้นเอกชน) เมื่อผ่านขั้นตอนแรก ต่อมาก็ต้องติดตามนัดหมายเรื่องการสอบคัดเลือก ตอนแรกก็พอทราบจากเพื่อนที่เคยเรียนมาบ้างว่ามีสอบอะไร แต่ก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญมากนัก จนถึงวันคัดตัวนักกีฬา เริ่มจากบรรยากาศผู้มาสมัครเป็นร้อยๆ โอ้ว กดดันหนึ่ง พอลงชื่อไปเปลี่ยนชุดว่ายน้ำเพื่อจับเวลา (200 เมตรใน 5 นาที คะแนนเต็มที่ 3 นาที) ในห้องเปลี่ยนชุดบางคนหุ่นอย่างกับนักกีฬาระดับโอลิมปิก บางคนหันหลังนึกว่ายากูซ่า สักมังกรเต็มหลังเลย เรารู้สึกมาผิดห้องไงไม่รู้ กดดันสอง พอว่ายน้ำเสร็จ ต้องไปสอบกลั้นหายใจในน้ำต่อเลย (90 วินาที) งานนี้ไม่ค่อยมีปัญหา แต่จากนั้นขึ้นบกมาโหนบาร์เดี่ยวดึงข้อ อันนี้สิโหด ยากูซ่ายังไม่ผ่าน ลืมบอกไป นายยากูซ่า (เรียกอย่างนี้เพราะไม่รู้จักชื่อแต่จำมังกรที่หลังได้) ว่ายน้ำไม่ถึง 3 นาที อันตัวเราปาเข้าไป 5 นาทีเต็ม ดึงข้อเกณฑ์ผ่าน 4 ครั้ง ฟังดูเหมือนง่าย แต่ดึงแบบทหาร แขนเหยียดสุด มือคว่ำ ขึ้นสุด ลงสุด ห้ามเหวี่ยงตัว ห้ามงอเข่า และคางต้องถึงบาร์ทุกครั้ง ผมได้ 4 ครั้ง (ไม่ใช่เก่ง แต่อุตส่าห์ซ้อมมา 2 อาทิตย์ยังได้แค่ผ่าน) บางคนกลายเป็นหมูแดดเดียวในท่านี้เพราะดึงไม่ขึ้น ขึ้นก็ผิดท่า ต่อมาต้อง situp วิดพื้น อย่างละ 3 นาทีทำให้ได้มากที่สุด แน่นอนท่าต้องถูกแบบทหาร 

สุดท้ายก็มารวมคะแนน ปีแรกผมสมัครเป็นนพอรุ่น 9 แต่ติดสำรอง ด้วยความอยากเรียนสุดๆ ปีต่อมาเลยไปฟิตมาใหม่ ประกอบกับปีนั้นเพิ่งเกิดซีนามิ (ช่วงคริสมาสต์) เลยทำให้คนไปสมัครน้อย (หลังซีนามิไม่กี่วัน) เลยติด ฮ่าๆ ฝีมือ + ธรรมชาติเป็นใจ จึงได้เป็นนักดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์รุ่น 10 สมใจอยาก

1 ความคิดเห็น:

  1. อาจารย์ มีลูกแล้วเหรอคับ แต่งงานเมื่อไหร่คับเนี้ยไม่เห็นบอกกันบ้างเลย
    ติดตามข่าวอยู่บ่อย ๆ นะคับ ไม่ได้ยินข่าวเลย ดีใจด้วยนะคับ ลูกน่ารักมาก ๆ ผมเองยังใช้ชีวิตแบบไร้สาระเหมือนเดิม ต๋อง

    ตอบลบ

My first presentation